วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment 4





(1).ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับเครื่อง Desktop



Answer :               ควรเลือกใช้แบบสายทองแดงแบบ UTP เนื่องจากเป็นสายที่ติดตั้งได้ง่าย มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูงและราคาถูก  มีความยาวของสายในการเชื่อมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร และสาย UTP นั้นมีจำนวนสายบิดเกลียวภายใน 4 คู่ คู่สายในสายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวนคล้ายสายโทรศัพท์ มีหลายเส้นซึ่งแต่ละเส้นก็จะมีสีแตกต่างกัน และตลอดทั้งสายนั้นจะถูกหุ้มด้วยพลาสติก  ในปัจจุบันเป็นสายสัญญาณที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในระบบเครือข่ายมากที่สุด 
ข้อเสียของสายสัญญาณประเภทนี้คือ  ป้องกันสัญญาณการรบกวนได้ไม่ดี ถูกรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย และมีระยะทางจำกัด


 (2.)  ต้องการให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างวงแลนมีความเร็วสูง




Answer :          ควรเลือกใช้แบบสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable)  เพราะมีประสิทธิภาพในด้านความเร็วดีกว่าทองแดงและเป็นสายสัญญาณที่มีความเร็วสูงที่สุดในการเชื่อมต่อ ไม่มีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าและ  ยังมีระยะทางการส่งข้อมูลได้ไกลในปริมาณที่สูง  
ข้อเสียคือ มีราคาแพงกว่าสายส่งสัญญาณแบบทองแดง ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้งและมีค่าใช่จ่ายในการติดตั้งสูง


(3).ระยะทางที่สายสัญญาณเดินทางผ่านต้องผ่านเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า


  
Answer :          ควรเลือกสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable) เนื่องจากเป็นการส่งสัญญานด้วยแสงโดยใช้ใยแก้วชั้นนอกเป็นกระจกสะท้อนจึงทำให้สายชนิดนี้สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และสามารถส่งข้อมูลได้ในระยะไกล

(4).ต้องการระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบ และ ซ่อมบำรุงกรณีเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ



Answer :         ควรเลือกใช้แบบสายทองแดง เพราะ การติดตั้งและบำรุงรักษาได้ง่าย สามารถควบคุมจุดการเชื่อมต่อและการแพร่กระจายของข้อมูลได้ดี ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ อุปกรณ์สามารถหาได้ง่ายทั่วไป ราคาติดตั้งมีราคาถูกกว่าแบบสายใยแก้วอีกด้วย


(5).รองรับการเพิ่มจุดการเชื่อมต่อสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook 

      เพิ่มเติมอย่างน้อย 4 เครื่อง





Answer :        ควรเลือกใช้แบบสายทองแดง สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)  เนื่องจากสามารถควบคุมคุมการเชื่อมต่อ การแพร่กระจายของข้อมูล และที่สำคัญสามารถป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดี ได้รับความนิยมในการใช้งาน



วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment3




การใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัยได้ดังนี้




    1. การตั้งกระทู้ หรือตอบกระทู้ ควรใช้คำที่สุภาพ และไม่สร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้อื่นเช่น ที่ www.pantip.com เป็นต้น 
    2. ไม่ควรให้ Account อินเทอร์เน็ตกับบุคลอื่นไปใช้งานและควรเปลี่ยนpassword อย่างน้อย 1 เดือน การตั้ง password ใหม่ ควรตั้งไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัวโดยใช้ ตัวเลขผสมตัวอักษร เช่น 255wcit1 ถ้าในกรณีที่รู้ว่า Account ตนเองมีปัญหา ในการใช้งาน ให้ติดต่อศูนย์คอมพิวเตอร์ทันที
    3. ระวังการจ่ายเงินสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพราะอาจจะมีผู้อื่น คอยดักจับเลขที่บัตรเครดิตเรา ในการใช้งานได้ ดังนั้นควรตรวจสอบ ระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้นๆ ว่ามีระบบความปลอดถัยหรือไม่ ก่อนทำการสั่งซื้อ
    4. ควรทำการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต เช่น Windows Internet Explorer และ Outlook Express เป็นต้น จากเว็บไซต์ http://www.microsoft.com
    5. ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 โปรแกรม 
    6. ไม่ควร Download โปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
   
7 . ไม่ควรรับโปรแกรม หรือเปิดไฟล์ต่าง ๆ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักผ่านการใช้งานโปรแกรม MSN, IRC, Pirch และ e-Mail เป็นต้น และปัจจุบันเพิ่มเติมอีกนิดนึงว่าไม่ควรรับไฟล์ใด ๆ แม้จากคนที่เรารู้จักหากไม่ได้รับการยืนยันจากผู้ส่งว่าได้ส่งไฟล์มา เพราะปัจจุบันมีไวรัสหรือมัลแวร์ที่สามารถปลอมตัว หรือใช้โปรแกรมของผู้ส่งไปยังผู้รับได้ เมื่อรับมาก็คือการรับไวรัสเข้ามายังเครื่องนั่นเอง 
    8. ไม่ควรนำ E-mail ของตนเองไปลงทะเบียนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะจะทำให้ได้รับจดหมายขยะ จากเว็บไซต์โฆษณาสินค้า หรือเว็บไซต์ที่มีไวรัส
    9. ถ้าต้องการความปลอดภัยสูงขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถติดตั้งโปรแกรม Personal Firewall บนเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอกเข้าสู่เครื่องผู้ใช้








เปรียบเทียบ "Social media กับ Traditional media"





เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลข่าวสารในรูปแบบใหม่ที่มีการสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถสื่อสารได้ ทาง  (Two-way Communication)
ข้อดี    >>สามารถกระจายผู้รับสื่อได้อย่างรวดเร็วจึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย >>มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องรับสาร เช่น คอมพิวเตอร์ โดยต้องมีความรู้ในการใช้ด้วย เข้าถึงเป้าหมายได้เฉพาะกลุ่ม
ตัวอย่าง :          E-mail Facebook/Fanpage Website Banner Youtube







เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลในรูปแบบเดิมที่ไม่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)


ข้อดี>> สามารถกระจายข้อมูลในกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและสะดวกต่อการเข้าถึงในพื้นที่ทีมีข้อจำกัดในการรับสื่อรูปแบบใหม่
ข้อเสีย>> มีต้นทุนสูง ล้าสมัย ล่าช้าและผู้รับสื่อไม่สามารถโต้ตอบกลับได้




ตัวอย่าง :       โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา











ช่วยในการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ บริหาร และความเชี่ยวชาญของคุณไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในว
งจรธุรกิจ  Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่าย สามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง

การที่ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็น Buzz Marketing บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตนเป็นต้น

บางบริษัทใช้ Blog เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้น จะดูมีความเป็นกันเอง และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝาก comment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำ ที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้ง Blog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาด โดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย





"Google Apps"



 เป็น Solution การจัดการข้อมูลทุกชนิดสำหรับ บริษัท, องค์กร, ธุรกิจ, กลุ่ม, ชมรม ของท่าน เพื่อให้ “ข้อมูล” ต่างๆ สามารถ “เข้าถึงได้ง่าย” (Accessible) และ “คงทนถาวร” (Durability) มากที่สุด ซึ่งภายใน Google Apps นั้น ประกอบไปด้วยโปรแกรมต่างๆ ภายในดังนี้
  • Google Mail: จัดเก็บ รับ-ส่ง จดหมาย (E-mail) สำหรับองค์กรของท่าน สามารถใช้ Domain ของบริษัทท่านเป็น E-mail ได้ และปลอดภัยจากอีเมลล์ขยะ (Spam Filter)
  • Google Calendarแบ่งปัน นัดหมายส่วนตัวของคนในองค์กร และใช้เป็นปฏิทินกลาง สำหรับแจ้งข้อมูลการเข้าประชุม, กำหนดการส่งของ และอื่นๆ ได้อย่างสร้างสรร
  • Google Docs: แชร์เอกสารทั้ง Word, Excel และ PPT เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถ อ่านข้อมูล หรือแก้ไข ได้พร้อมๆ กัน แบบ Real-time
  • Google Sites: เว็บเพจกลางสำหรับใช้ภายในบริษัท (Intranet) เพื่อส่งข่าว หรือประกาศสำคัญๆ ต่างๆ หรือ ฐานข้อมูลความรู้ (Knowledge Base) เพื่อให้พนักงานเข้าถึงได้

ประโยชน์ของ Google Apps

  • เป็น Cloud-based Solution ทำให้ข้อมูลของท่านอยู่ยงคงกระพัน ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย และไม่ต้องเสียเวลากับการ Update Version ของ โปรแกรมที่ตัว Client ด้วยตนเอง (ไร้ความเสี่ยงต่อการเข้ากันได้ของข้อมูลต่างๆ)
  • ใช้พนักงาน IT ดูแลน้อยถึงน้อยมากที่สุด เพราะสามารถ Services ได้ง่าย ดูแลได้เอง และมีปัญหาการใช้งานน้อยมาก
  • ปลอดภัยกว่า เพราะข้อมูลถูเก็บที่ฝั่ง Google ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา และรอบคอบกว่า การออกแบบระบบด้วยตนเอง
  • ระบบการทำงานแบบ Online Application เพื่อให้ทุกระบบปฏิบัติการ (OS) ไม่ว่าจะเป้น Windows Mac หรือ มือถือ สามารถเข้าใช้งานได้อย่างง่ายดาย
  • เอกสารต่างๆ มีการจัดเก็บแบบแยก Version (Revision) เพื่อง่ายในการดูย้อนหลัง เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ
  • มีระบบพูดคุย (Instant Messaging) และ Video Chat ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในองค์กร
  • ค่าใช้จ่าย FREE! ถึง ถูกสุดๆ
  • มีพื้นที่จัดเก็บมากมาย เหลือเฟือ ให้ท่านใช้งานได้ แทบจะไม่จำกัด



" Cloud Computing "





คือ  แนวคิดการใช้งานทางด้านไอทีที่ใช้วิธีดึงพลังและสมรรถนะจากคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัวจากต่างสถานที่ให้มาทำงานสอดประสานกัน
เพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริการทาง ด้านไอที




ประโยชน์ของCloud Computing
:มีอยู่หลายประการ เช่น ช่วยให้การนำไอทีไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจทำได้ง่ายและประหยัดขึ้นกว่าใน อดีต โดยองค์กรสามารถใช้บริการทางด้านไอทีได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีของตน
อีกทั้งผู้ใช้งานก็สามารถเลือกใช้บริการเฉพาะอย่างและเลือกเสียค่าใช้จ่าย ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านหรือสอดคล้องกับงบประมาณของตนได้ ยิ่งไปกว่านั้น คลาวด์ คอมพิวติ้งก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยองค์กรประหยัดพลังงาน หรือเพิ่มความอุ่นใจในด้านความปลอดภัยของระบบไอที เป็นต้น







***เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญแห่งอนาคต และมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น ธุรกิจใดก็ตามที่สามารถฉกฉวยโอกาสและสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อธุรกิจของตนได้ก่อนก็ย่อมจะสร้างความได้เปรียบและโอกาสในการ ต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจขององค์กรได้ก่อนใคร 















Assignment2





                              "เทคนิคการใช้งาน internet"


(1.) 
เทคนิคการโชว์-ซ่อน ปุ่ม เปิด-ปิด บนแท็บของ Firefox
          อีก 1 เทคนิคน่าสนใจ สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการโมฯเบราเซอร์ที่ชื่นชอบอย่าง Mozilla Firefox ในแบบเดิมๆให้เป็นไปตามที่เราต้องการ ด้วยการดัดแปลงแก้ไขปุ่มเปิด/ปิดแท็บในรูปแบบต่างๆ เรามาดูกันครับว่าจะดัดแปลงแก้ไขในรูปแบบใดได้บ้าง
          1. เปิดโปรแกรม Mozilla Firefox แล้วพิมพ์ about:config ที่ช่อง Address -> Enter แล้วคลิกI’ll be careful, I promise!

1

          2. ที่ช่อง Filter: พิมพ์คำสั่ง browser.tabs.closeButtons พร้อมกับดับเบิลคลิกที่คำสั่งนี้ แล้วใส่ค่าเป็นตัวเลขที่ต้องการลงไป

2

3. แล้วทำการปรับแต่งดังต่อไปนี้
          ค่าเดิมที่ถูกกำหนดมา โดยปกติจะกำหนดไว้ที่ “1
          “0 – จะแสดงปุ่มปิดบนแท็บที่มีการเรียกใช้งานเท่านั้น

3

          “1 – จะแสดงปุ่มปิดบนทุกแท็บที่มีการเรียกใช้งาน

4

          “2 – จะไม่แสดงปุ่มปิดแท็บใดๆ ถ้าต้องการปิดแท็บ ต้องคลิกขวาที่แท็บแล้วเลือก Close Tab

5

          “3 – จะไม่แสดงปุ่มปิดแท็บใดๆ ถ้าต้องการปิดแท็บ ให้คลิกแท็บที่ต้องการ แล้วคลิกปุ่ม “x” ขวาบน

6


(2.)
ปิดหน้าเว็บบน Tab อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคลิกใน IE

          เราสามารถปิดหน้าเว็บบน Tab ที่เราเปิดอยู่ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่ม เท่านั้น หน้าเว็บที่เราเปิดอยู่ก็จะถูกปิดไปทันที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปคลิกปุ่ม Close Tab ทีละหน้าอีกต่อไป ดังขั้นตอนดังต่อไปนี้

วิธีปิดหน้าเว็บบน Tab อย่างรวดเร็ว
          1. ระหว่างเปิดหน้าเว็บไซต์ไว้หลาย ๆ Tab ให้กดปุ่ม Ctrl+w

1

          2. หน้าเว็บที่เปิดไว้บน Tab ก็จะถูกปิดไปทันที

2



(3.) 
ดูตัวอย่างหน้าเว็บก่อนคลิกแท็บ ด้วย Tab Preview Firefox

          ถ้าหากท่านเปิดหน้าเว็บด้วย Firefox และเปิดหลายแท็บ ในระหว่างการเรียกเปิดหน้าเว็บหลายๆแท็บพร้อมๆกัน บางครั้งเราก็ต้องคลิกแท็บต่างๆ เพื่อดูว่าได้โหลดหน้าเว็บที่ต้องการเสร็จ หรือยัง วันนี้เรามี Add-ons เท่ๆ อย่าง Tab Preview สำหรับดูตัวอย่างการโหลดหน้าเว็บในแต่ละแท็บมานำเสนอครับ

ตัวอย่างการใช้งาน Tab Preview

1

เพียงแค่เปิด Firefox แล้วดาวน์โหลด+ติดตั้ง Tab Preview Add-ons จากลิงค์ด้านล่าง ก็สามารถใช้งาน Tab Preview ได้แล้ว

Assignment1






"บอกความหมายของคำ"






brower คือ ย่อมาจากคำเต็มว่า "เว็บบราวเซอร์" หมายถึง แอพพลิเคชัน (ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้งานเฉพาะทาง) ที่ใช้สำหรับสืบค้น และแสดงหน้าเว็บ (webpage) ต่างๆ ที่อยู่ในเว็บเซิร์ฟเวอร์บนอินเทอร์เน็ต โปรแกรม Browser ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer, Mozilla FireFox, Google Chrome เป็นต้น

Client คือ เครื่องที่ไปขอใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก serverหรือเครื่องที่ติดต่อกับ userโดยทั่วไปทำหน้าที่เป็นเหมือนหน้าต่างให้ที่รับและแสดงข้อมูลแทนเครื่องแม่ (server)



Domain Name System  (DNS) คือ ระบบจัดการแปลงชื่อไปเป็นหมายเลข IP address โดยมีโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว กลไกหลักของระบบ DNS คือ ทำหน้าที่แปลงข้อมูลชื่อและหมายเลข IP address หรือทำกลับกันได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆ อีก เช่น แจ้งชื่อของอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ใน domain ที่รับผิดชอบด้วย
ในระบบ DNS จะมีการกำหนด name space ที่มีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน มีกลไกการเก็บข้อมูลเป็นฐานข้อมูลแบบกระจาย ทำงานในลักษณะของไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server)

Download คือการโอนย้ายไฟล์หรือข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง เช่น การโอนไฟล์หรือว่าข้อมูลมาจาก อินเตอร์เนต หรือว่า จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เข้ามาบันทึกเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา  

E-Mail (Electronic Mail)คือจดหมายอิเลคทรอนิกส์ ที่ใช้รับส่งกันโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์บางแห่งใช้เฉพาะภายใน บางแห่งใช้เฉพาะภายนอกองค์กร (สำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ internet) การใช้งานก็เหมือนกับเราพิมพ์ข้อความในโปรแกรม word จากนั้นก็คลิกคำสั่ง เพื่อส่งออกไป โดยจะมีชื่อของผู้รับ ซึ่งเราเรียกว่า Email Address เป็นหลักในการรับส่ง

 Freeware คือ ซอฟต์แวร์ประเภทที่ให้ใช้งานได้ฟรี แต่บางครั้งมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ใช้ได้เฉพาะส่วนบุคคล ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์ หากต้องการใช้เชิงพาณิชย์ จะมีเวอร์ชันที่ผู้พัฒนาเตรียมไว้ขาย 

 Home Page คือ เว็บเพจแรกที่ปรากฏหลังจากเริ่มใช้ web browser เช่น Netscape Navigator หรือ Microsoft Internet Explorer ซึ่ง browser มักจะได้รับการตั้งค่าก่อน ดังนั้น home page คือ เพจแรกของผู้ผลิต browser

Internet คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลกโดยมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็น หนึ่งเดียวซึ่งคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวอักษร,ภาพกราฟิก และ เสียงได้ รวมทั้ง สามารถ ค้นหาข้อมูล จากที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

server คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แก่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่าย ในระบบเครื่อข่าย 

World Wide Web (WWW) คือ คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ (กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่) โดยผ่านทาง บราวเซอร์ (Browser) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน World Wide Web

Web Site คือ แหล่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและสื่อประสมต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง ข้อความ ของแต่ละบริษัทหรือหน่วยงานโดยเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ว่า เว็บเพจ (Web Page) และเรียกเว็บหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ว่า โฮมเพจ (Home Page) หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ก็คือเว็บเพจอย่างน้อยสองหน้าที่มีลิงก์ (Links) ถึงกัน 


web browser คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ

Hypertext หมายถึง ข้อความ หรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยมีการนำเสนอ 
แบบปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ด้วยการนำข้อความที่ใช้มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะปรากฏในลักษณะที่เด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ การเน้นด้วยสี ตัวหนา