วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

Exercise




"Exercises 1"

1.Which queries would match a page containing “GoogleGuide”? 


a. guide ค้นไม่พบ


b. leg    ค้นไม่พบ


c. googleguide ค้นพบ


d. GoogleGuide ค้นพบ


e. google ค้นไม่พบ



**C กับ D  ค้นพบ

2.Which words the following query will find

a. non-profit

b. non profit

c. Nonprofit 

สามารถหาผลลัพธ์ว่า non profit เจอทั้งข้อ a,bและc 

"Exercises 2"

1.How many square kilometers are 1000 acres?


   >>>1000 acres = 4046856.42 


2.What is patent 5123123 about?



สิทธิบัตรหมายเลข 5123123เกี่ยวกับ Bathtub overflow control device





3.How was the Polish city B ILGORAY spelled in Hebrew in a picture of a page from a book written there?

ในภาษา Hebrew คือ  "
bʲiwˈɡɔraj"

4.Find a paper by Ericson about the effects of anti-depressants during pregnancy.

http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/10501819

5.Find a list of restaurants and synagogues less than a mile far from the Holiday Inn Crowne Plaza at San Francisco Union Square.

Restaurants
- Sears Fine Food
- Morton's the Steakhouse
- Daily Grill
- Ben & Jerry's Macy's
- Kuleto's Restaurant
-Uncle Vito's Pizza
-Daffodil Restaurant

สถานนมัสการของชาวยิว
- Congregation Keneseth Israel
- American Chinese Presbyterian

"Exercises 3"


1.Search for a keyword in a big website use several search engines.

How many results do you get?

Google  :   21,100,000 results
Yahoo   :   
110,000,000 results

Bing      :   
71,500,000 results

>>Keyword    "stitch"

2.What is the zipcode of 8 Hachermon st. in Kfar Sava?

>> 44252

3.What was the exchange rate of Canadian dollars
(in us dollars) from 20 Sep 1991?

>>0.88067 USD

4.What was the value of Berkshire stock (BRK.A) on Nov. 12 1996?

>> 33,500 

5.Who designed Teldan’s website, as existed in May 1998?

>>Custom web design

6. בשיר עברי המנה השניה היא הרימון, מהי המנה הראשונה?


7. באיזו עיר בישראל גרה דודתו של אברמוביץ אברהם (בומי) ז"ל?

8. Find a website/database relevant to your work study. 
Example:

market research, news, stock exchanges, industry.
>> http://www.wiseknow.com/


"Exercises 4"

1.What are the relevant/related topics to “billing software”?

>> Invoicing software, accounting software

2.Find authoritative press releases sites.

>>
http://www.oknation.net

3.How much is 1 US$ today?

>> 30.9396368 Thai baht

4.What is the meaning of the word “Google”?

"Google" เป็นคำที่จงใจเพี้ยนมาจากคำว่า "Googol" ที่บัญญัติขึ้นโดย Milton Sirotta ในปี ค.ศ. 1938 ซึ่งหมายถึง จำนวนเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว และ สองหนุ่มผู้ก่อตั้ง Search Engine นี้ได้ยืมและแผลงคำนี้มาใช้เพื่อเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ของบริการที่รวบรวมจัดระเบียบข้อมูลจำนวนมหาศาลขนาด Googol ไว้ที่ Google นี่เอง

5.Find technical, non-commercial, papers about “search engine personalization”.

>>http://searchenginewatch.com/article/2064121/Searching-for-Search-Engine-Personalization

6.How much a 17’’ flat computer monitor cost?

Ans : 3450 บาท
http://checkprice.net/price_list/EFHjkO7quv0.html


"Exercises 5"

1.Which search engine was named after a song from a Disney movie?
>> http://disney.go.com/search/
2.Why Arrack turns white when mixed with water?
>>This dilution causes the clear liquor to turn a translucent milky-white color; this is because anethole, the essential oil of anise, is soluble in alcohol but not in water.
3.How many employees Team company (Israel) has?
>>1,100 คน http://www.jobs-israel.com/content.aspx?Category=779

4.Find other websites related to MindBranch.
>> www.mindbranch.com/
5.Find statistics on how much time Americans spend, on average,
searching for information on the Internet.
>>On average, Americans spend 14 hours per week searching for information.(2011,อ้างอิง:http://www.foremostmedia.com/Services/SearchEngineMarketing/tabid/456/Default.aspx)

6.Find statistics on how long it takes for people searching for information to get frustrated when they don’t find what they want?
>> Americans spend 9,000,000 hours per day searching for misplaced item
(อ้างอิง : http://overallorganizing.org/ )


"Exercises 6"

<Find a website that displays the following real - time flight information>

>>http://www.futurastudios.com




Assignment SEO "10 STEPS"


        "Search Engine Optimization Process"

                                      

                                           
      Search Engine Optimization Process มี 10 ขั้นตอน คือ




ขั้นตอนที่ 1 : การวิเคราะห์เบื้องต้น <Initial Analysis>

กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine Optimization process) เริ่มต้นด้วยการดำเนินการวิเคราะห์เว็บไซต์ในสภาพปัจจุบัน โดยทำการประเมินผลและตรวจสอบตำแหน่งของเว็บไซต์ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนกลยุทธ์ นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine Optimization) ให้สามารถทำงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเทคนิคการปรับแต่งเว็บไซต์ ให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับต้นๆ

โดยให้ทำการการวิเคราะห์เบื้องต้น  ดังนี้
-ประเมินผลทางเทคนิคของเว็บไซต์ถึงจุดที่แข็งแกร่งและอ่อนแอของเว็บไซต์
-การวิเคราะห์การจัดทำดัชนีของหน้าเว็บ
-การวิเคราะห์การจัดอันดับของเว็บไซต์ในปัจจุบันจากเครื่องมือค้นหาต่างๆ
-การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีการป้องกันเว็บไซต์ให้ได้รับการค้นหาในอันดับที่ดี
-คำหลักที่ใช้ในการค้นหาเว็บไซต์
-การวิเคราะห์ความเข้ากันได้ของเครื่องมือค้นหากับเว็บไซต์การวิเคราะห์โครงสร้างของเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 2 : การวิจัยและวิเคราะห์คำหลัก (Keyword Research and Analysis)

                   การวิจัยและวิเคราะห์คำหลัก (Keyword) เป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine Optimization process) โดยให้ทำการคัดเลือกคำหลักหรือวลีที่เหมาะสม ที่ผู้ใช้งานอาจเลือกใช้ในการค้นหาจากเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีการวิจัยและวิเคราะห์คำหลักหรือวลีที่ผู้ใช้งานอาจพิมพ์ไม่ถูกต้อง เพื่อให้คำหลักนั้นสามารถนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลของเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine ) แล้วระบุไปยังข้อมูลเป้าหมายได้ ซึ่งจากการวิจัยและวิเคราะห์คำหลัก แล้วทำการคัดเลือกคำหลักที่เหมาะสมนั้น ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อเว็บไซต์ ทั้งในการช่วยลดต้นทุน การเติบโตทางการตลาด และการประสบความสำเร็จในระยะยาว

โดยการวิเคราะห์นี้ประกอบด้วย

-แนะนำคำ
-การวิจัยเอกสารคำค้นหารายเดือน
-ประสิทธิภาพดัชนีของคำหลัก
-การจัดลำดับของคำหลักในปัจจุบัน
-อัตราผลตอบแทนจากคำหลักแต่ละคำ



ขั้นตอนที่ 3 : การวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitor Analysis)

                   วิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่ง ดูที่การเชื่อมโยงในเว็บไซต์ของคู่แข่ง จะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ดี เป็นวิธีการสร้างข้อได้เปรียบไดประสบความสำเร็จ


ขั้นตอนที่ 4 : แผนผังและการรวมตัวดึงข้อมูล (แผนผัง + รวมฟีด RSS)

"แผนผังเว็บไซต์"
 >>ซึ่งแผนผังจะเป็นเหมือน "สารบัญ" หรือ "หน้าดัชนี" ของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงรวม กลไกค้นหา (เช่น Google, Bring, Yahoo) และผู้ใช้งานทั่วไปด้วยอีกด้วย

ซึ่งการสร้างปฏิสัมพันธ์ของแผนผังสำหรับ Search Engine นั้นเพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายและเข้ามาเก็บข้อมูลการเชื่อมโยงตามที่จัดทำไว้ให้โดยข้อดีของการทำคือแผนผัง
ทำให้ผู้ชมเว็บไซต์เข้าใจโครงสร้างเว็บ และเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
แผนผังเว็บไซต์ และเห็นภาพรวมเชื่อมโยงของในเว็บไซต์ทำให้ง่ายต่อการพัฒนาเนื่องจากแผนผังจะแบ่งส่วนของเว็บไซต์ไว้อย่างชัดเจน
Bot ทำให้ของ Search Engine ที่เข้ามาเก็บข้อมูล (หน้าดัชนี) ได้รวดเร็วและง่ายขึ้น
เป็นส่วนหนึ่งของการทำ SEO (Search Engine Optimization)

"ประเภทของ  แผนผัง"
การทำเว็บไซต์ที่ดีควรมีแผนผังทั้ง 2 รูปแบบคือ
แผนผังเพื่อให้เครื่องมือค้นหาอ่าน
แผนผังเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปอ่าน
เครื่องมือค้นหาจะต้องทำให้แผนผังนั้นอยู่ในรูปแบบของภาษา XML ซึ่งจะทำให้หรือ Bot แมงมุมของ Search Engine ที่สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ว่านี้คือแผนผังตัวอย่างแผนผังของในรูปแบบ XML เช่น
http://www.sutenm.com/sitemap.xml
http://seo.siamsupport.com/sitemap.xml
แผนผังส่วน โดยควรให้เว็บไซต์ดูเรียบง่ายสวยงาม แผนผังเว็บไซต์นี้ได้โดยง่ายตัวอย่างเช่น
http://www.sutenm.com/sitemap-page/
http://www.google.com/sitemap.html

"RSS Feed" 
   >>
ปัจจุบัน RSS และมีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะธุรกิจที่มีการแชร์ข้อมูลเช่นเว็บไซต์ข่าวเว็บบล็อก เพื่อให้ผู้ใช้ไม่สับสนรวมถึงสามารถสืบค้นข้อมูลได้

RSS ย่อมาจาก  จาก Really Simple Syndication คือบริการที่อยู่บนระบบอินเตอร์เน็ทจัดทำข้อมูลข่าวสารให้อยู่ในรูปแบบ XML เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้โดยส่งข่าวหรือข้อมูลใหม่ ๆ ให้ถึงเครื่องตลอดเวลาที่มีการไม่ปรับปรุง ต้องเสียเวลาเปิดเว็บไซต์เข้ามาค้นหา
ข้อดีของ  RSS
RSS ซึ่งต้องทำทุกครั้งเมื่อต้องการเพิ่มข่าวโดย RSS จะดึงข่าวมาอัตโนมัติ

"จุดเด่นของ RSS"

คือ เพื่อดูว่ามีข้อมูลอัพเดทใหม่หรือไม่ ไม่เท่ากัน ไม่ครบถ้วนรูปแบบ RSS
(ค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกกระบวนการ) ในขั้นตอนนี้ (Search Engine) ได้อย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนที่ 5 : (Search Engine ของส่ง Directory +)


"Search Engine "

เครื่องมือค้นหาคือ ด้วยคำค้นต่างๆซึ่งข้อมูลนั้นอาจอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์ไฟล์เอกสารไฟล์รูปภาพสื่อมัลติมีเดียไฟล์บีบอัดและรูปแบบอื่น ๆ ตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็น Search Engine ที่มีดังนี้

http://www.google.com
http://www.yahoo.com
http://www.live.com
http://www.bing.com
http://www.ask.com

 "กระบวนการทำงานของ  Search Engine" 

      >>โดยปกติแล้ว Search Engine จะมีเครื่องมือที่ชื่อว่าหุ่นยนต์ (หุ่นยนต์) ในการสืบค้นเว็บไซต์ต่าง ๆ ดัชนีโดยหุ่นยนต์จะเดินทางจากเว็บหนึ่งไปอีกเว็บหนึ่งเชื่อมโยงหลายมิติผ่านที่มีอยู่ในเว็บไซต์นั้น ๆ

การเรียงลำดับการค้นหาข้อมูล
เครื่องมือค้นหา ซึ่งโดยปกติแล้ว และมีปัจจัยอื่น ๆ อีกเช่นประเทศภาษาขนาดของไฟล์จำนวนผู้เข้าชมความถี่ในการอัพเดทข้อมูลจำนวนลิงค์เป็นต้น]

"ไดเรกทอรี"

            >>ไดเรกทอรีบางทีเรียกลิงค์ว่าคือ ๆ ได้ด้วยเว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม ไดเรกทอรีเว็บบางแห่งทำหน้าที่ค้นหาเป็นในตัวเองด้วย
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็น Web Directory มีดังนี้-  

http://www.dmoz.org/ 
http://www.directory-index.net/

........ถ้ามีผู้สนใจคลิกเลือกรายงานต่างๆไดเรกทอรีในที่จัดสร้างขึ้นจะมีการนำข้อมูลออกมาแสดงผลตัวอย่างเช่น sanook.com, siamguru.com เป็นต้น
ดังนั้น (Search Engine) ซึ่งมีมากกว่า 500 เครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) นอกจากนี้การจัดทำทำเนียบ ง่ายต่อการค้นหาและยังส่งผลดี (ค้นหา และการไดเรกทอรีจัดยังสามารถทำหน้าที่ค้นหาเป็นในตัวเองอีกด้วย

ขั้นตอนที่  6  : หนังสือสังคมเครื่องหมาย


"หนังสือสังคมเครื่องหมาย"

หนังสือสังคมเครื่องหมาย , จัดระเบียบ, ค้นหา,
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างหนังสือสังคมเครื่องหมายและ SEO คือ
อาจได้รับลิงก์ย้อนกลับเมื่อทำการบุ๊คมาร์คบนหน้าเว็บไซต์
บุ๊คมาร์คการ
เว็บไซต์บุ๊คมาร์คช่วยให้สามารถใช้แท็ก เพื่อแสดงรายการคำหลักในแท็กและช่วยให้มีการจัดอันดับจากคำหลักเหล่านี้

ตัวอย่างเว็บไซต์หนังสือสังคมเครื่องหมายที่ได้รับความนิยม:

digg
Del.icio.us
แบ่งปัน
Reddit
squidoo
สะบัด
แต่งตัว
Blogmarks.net
Ma.gnolia
Simpy
Spurl
BlinkBits
 เงา
น้ำตาลทรายดิบ 
MyWeb yahoo

ขั้นตอนที่  7  : บล๊อกและการสร้างข่าว (บล็อก + สร้างข่าวประชาสัมพันธ์)


"บล็อกคือ"
   
      >>การประกาศข่าวสารการแสดงความคิดเห็นการเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ 
ในปัจจุบัน บริษัท ชั้นนำต่าง ๆ ของโลกได้ให้ความสนใจบล็อกซึ่งเป็นรูปแบบของการตลาดการแบบใหม่เนื่องจาก Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่านบล็อกสูงมากเนื่องจากทั้งสองฝ่าย 
บล็อกเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์ข่าวสารขององค์กรโดยการใช้บล็อกเพื่อประกาศข่าวสารนั้นจะดูมีความเป็นกันเองและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตรเพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถแสดงความคิดเห็นฝากหรือสื่อสารกับเจ้าของบล็อกได้ทันทีทำให้ บริษัท เองจะได้ประโยชน์ จากคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัท ชั้นนำต่างๆจึงเลือกที่จะใช้บล็อกมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดโดยบางแห่งใช้ทั้งบล็อกอย่างเป็นทางการของ บริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียนบล็อกของตนเองซึ่งวิธี การนี้นับเป็นการทำการตลาดโดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย
จากความสำคัญดังกล่าวนี้เองจึงทำให้บล๊อก (Blog) (ค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกกระบวนการ) เหนือเว็บไซต์ของคู่แข่ง
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง  บล็อกและ SEO มีดังนี้

การสร้างบล๊อก (Blog) (ค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกกระบวนการ) การแลกเปลี่ยนบทสนทนาการพูดคุยและการอภิปรายในสังคมออนไลน์

(Search Engine) มีการเชื่อมโยงกลับมาที่เว็บไซต์

ขั้นตอนที่  8  : การเขียนบทความ (บทความส่ง)


                ในขั้นตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับการเขียนบทความเพื่อนำเสนอการบริการหรือสินค้าของเว็บไซต์ แล้วทำการส่งบทความไปที่เว็บไซต์บทความต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้งานที่แตกต่างกันเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง และเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) สามารถรู้และสื่อสารกับบทความแล้วเชื่อมโยงกลับมายังเว็บไซต์ได้
โดยประโยชน์ของการเขียนบทความมีดังนี้

· สามารถสื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมายและมีคุณภาพสูง เพิ่มโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
· มีโอกาสขายสินค้าหรือบริการได้มากกว่าวิธีการโฆษณาอื่นๆ
· มีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่ดีบน search engines ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo, Bing ตาม keyword ที่ได้เลือกเอาไว้การสื่อสารจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนทั้งจาก search engines เองและ article directories

ขั้นตอนที่  9  : การเชื่อมโยงเพื่อเป็นที่นิยม (ความนิยม Link)


"เชื่อมโยงความนิยม"
    >>เชื่อมโยงความนิยมเป็นค่าที่บอกจำนวนว่ามีกี่เว็บไซต์หรือกี่เว็บเพจของเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เชื่อมโยงลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา


"ความสำคัญของ Link popularity ที่มีต่อ SEO"
         การเชื่อมโยง (Link) มีความสำคัญต่อการเพิ่มการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) เพราะการเชื่อมโยงจะทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารกลับมายังเว็บไซต์ และหากสร้างการเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับผลที่ดีอย่างมาก การสร้างการเชื่อมโยงสามารถสร้างขึ้นในรูปแบบของความเห็นในบล็อก ,ส่งบทความและข่าวประชาสัมพันธ์ ,Social book marking เป็นต้น
ถ้าหากเว็บไซต์มี Link popularity สูงจากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีสถิติผู้เยี่ยม นั่นจะทำให้เว็บไซต์ถูกค้นหาเจอได้ ง่าย ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านั้นที่ลิงก์มายังเว็บไซต์ และเพิ่มโอกาสที่เครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) จะเข้ามาสำรวจเว็บไซต์ของเราบ่อยขึ้น และทำให้เว็บไซต์ของเรามีสถิติผู้เยี่ยมชมเพิ่มขึ้นได้ด้วย
ซึ่งในปัจจุบันเครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับ Link popularity ว่าจะจัดอันดับเว็บไซต์คุณอยู่อันดับที่เท่าไร เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่นๆ หากเว็บไซต์ของเรามี Link popularity สูง ก็มีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่สูงกว่าหรือดีกว่าเว็บไซต์ที่มี Link popularity ที่ต่ำกว่า


ขั้นตอนที่  10  : รายงานผลเครื่องมือค้นหาข้อมูล SERP รายงาน (หน้าผลการค้นหา)


"การรายงานผลเครื่องมือค้นหาข้อมูล"

      >>ค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกกระบวนการ

โดยการจัดอันดับจะอาศัยคำหลัก (Keyword) ในการจัดอันดับ      
(Search Engine) ได้แก่ Yahoo! Google Bing














วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Assignment 7






พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550  
      
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 


< มาตรา 6 >

ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ  ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำ  ทั้งปรับ


วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Assignment 6



~Domainname คืออะไร............






 >>ชื่อที่ใช้เรียก Website ของคุณ EX :(http://www.yourdomain.com)
 ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำกันกับชื่อผู้ที่จดมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยสามารถตรวจสอบชื่อโดเมนเนมได้ ในเมนู “ตรวจสอบโดเมนเนม”ชื่อเว็บไซต์ จะต้องสอดคล้องกับเนื้อหา ภาพ และ รูปแบบของเว็บไซต์ หรือจะระบุเป็นชื่อเจ้าของเว็บไซต์ก็ได้ เปรียบเสมือนนามบัตร อิเลคทรอกนิค เพื่อให้ผู้ที่สนใจ เกี่ยวกับบริการของลูกค้า ได้รู้จักบริการหรือตัวท่านเองได้มากขึ้น


 หลักการตั้งชื่อเว็บไซด์




>> การตั้งชื่อเว็บไซต์ ควรตั้งชื่อให้สั้นๆ ได้ใจความ หรือเป็นตัวย่อของบริษัท หรือ ชื่อของคุณเองก็ได้ เช่น SMHosting ซึ่ง SM เป็นตัวย่อ Hosting บ่งบอกถึงการให้บริการ ด้านเว็บไซต์ เป็นต้น




< ข้อควรรู้ก่อนจด โดเมนเนม >


- ความยาวของชื่อ โดเมนเนม สามารถตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร
- โดเมนเนม จะต้องจดในชื่อของคุณเท่านั้น
- กรณีที่เป็น โดเมนเนมของบริษัท จำเป็นต้องจดภายใต้ชื่อของบริษัทเท่านั้น ห้ามใช้ชือของพนักงานของบริษัทนั้นๆ
- ข้อมูลที่สำคัญที่สุด ของ โดเมนเนม คือ รายละเอียดของผุ้ที่จดโดเมนเนม
- กรุณาใช้ Email ที่คุณใช้เป็นหลัก เพราะเป็นทางเดียวที่จะติดต่อกับคุณ ในกรณี โดเมนเนม หมดอายุ
- กรุณาบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับ โดเมนเนมของคุณไว้ให้ดี เช่น วันหมดอายุ, ผู้มาติดต่อ, อื่นๆ

การจดทะเบียนโดเมนเนม (Domain Name) มี 2 รูปแบบ

1). จดทะเบียนโดเมนเนมภายนอกประเทศ
>>การจดทะเบียนโดเมนเนมภายนอกประเทศ จะมีให้เลือกอยู่หลายนามสกุล เช่น .Com .Net .Org เป็นต้น
- โดเมนเนม นามสกุล .Com (ผู้ใช้ส่วนใหญ่จดทะเบียนนี้) เนื่องจากเป็น นามสกุลที่เหมาะสำหรับ บริษัท ห้างร้าน หรือ เว็บไซต์สวนตัว หรือบางครั้ง ก็สามารถนำไปใช้ในการทำเว็บไซต์ประเภทอื่นๆ ก็ได้
- โดเมนเนม นามสกุล .Net ใช้สำหรับทำเว็บไซต์ประเภทผู้ให้บริการด้าน Network หรือ Internet เป็นต้น
- โดเนมเนม นามสกุล .Org ใช้สำหรับ หน่วยงานองค์กร หน่วยงานราชการ บางครั้งก็จดเพื่อใช้ทำเว็บไซต์ประเภทอื่นๆ

2). จดทะเบียนโดเมนเนมภายในประเทศไทย
>>การจดทะเบียนโดเมนเนมภายในประเทศไทย จะมีให้เลือกอยู่หลายนามสกุล เช่น .in.th, .co.th, .go.th, .ac.th
(โดเมนเนมเหล่านี้จำเป็นจะต้องมีเอกสารในการประกอบการจด โดเมนเนมด้วย เนื่องจากเป็นนามสกุล ที่ใช้ในหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ เช่น .Co.th จะต้องจดในนามบริษัทเท่านั้น โดยจำเป็นต้องส่งเอกสาร นิติบุคคล หรือ เอกสารเกี่ยวกับบริษัท เพื่อยืนยัน การมีตัวตนของบริษัท)




วิธีการ สมัครโดเมนเนมฟรี .Co.Cc

>>.Co.Cc คือ โดเมนเนมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีผู้ใช้มากมาย ที่สนใจที่อยากมีเว็บไซต์แต่ไม่มีทุนในการจดโดเมนเนม .Com, .Net, หรือ .Org เป็นต้น ซึ้งหลายคนคงคิดว่า แค่ลองทำเว็บไซต์ ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้สนใจมากน้อยเพียงใด ทำให้มีผู้ที่สนใจ ใช้ โดเมนเนมฟรีๆ โดยทางเว็บไซต์ .Co.Cc ได้เปิดให้บริการจด โดเมนเนม .Co.Cc ฟรี จำนวน 2 โดเมนเนม ต่อ 1 Username


วิธีการสมัครใช้บริการ .Co.Cc


เข้าไปที่ http://www.co.cc/




คลิ๊กที่ Create an account now (เพื่อสมัครเป็นสมาชิกของ .Co.Cc สำหรับการใช้งาน)




  





กรอกข้อมูลต่างที่แบบฟอร์มต้องการ

1. First Name: ชื่อจริง
2. Lastname: นามสกุล
3. Birthday: วันเดือนปี เกิด (เป็น ค.ศ.)
4. Email Address: อิเมล ที่ใช้ในการติดต่อเจ้าของโดเมนเนมให้ได้ง่าย
5.Enter a password: กรุณากรอก พาสเวิร์ด ที่สามารถจำได้ง่าย
6.Word Verification: ระบบรักษาความปลอดภัย กรุณา ใส่ข้อความตามภาพที่กำหนดให้ข้างๆ
7. I accept the terms of service: ติ๊กเพื่อ ยอมรับข้อตกลง
8. Continue เพื่อยอมรับ และไปขั้นตอนต่อไป




ยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง แล้วกด Continue





หลังจากนั้นให้พิมพ์ ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการ พร้อมกับกด "Check Availability"






กรณีที่ 1
ถ้าหาก ชื่อเว็บไซต์ที่ คุณตั้ง ยังไม่มีผู้ใดใช้ ก็จะให้กด "Continue to registration" เพื่อสมัคร ใช้ โดเมนเนม ที่คุณต้องการได้ทันที





กรณีที่ 2
ถ้าชื่อโดเมนเนมที่คุณตั้ง มีผู้ใช้อยู๋แล้ว ก็จะเป็นแบบนี้ครับ ให้ Back กลับไป แล้วตั้งชื่อ โดเมนเนมใหม่อีกครั้ง






จากกรณีที่ 1
    เมื่อเรายืนยันการสมัคร โดเมนเนมสำเร็จก็จะขึ้นแบบนี้ครับ ให้เรากด Setup เพื่อเชื่อมต่อ DNS กับ โดเมนเนมให้สามารถใช้ ชื่อโดเมนเนมนี้ ในการเรียกใช้เว็บไซต์ของเราได้ทันที






เมื่อกด Setup ให้เราสังเกตุว่า จะมีวันหมดอายุของ โดเมนเนม อยู่ "ปี-เดือน-วัน"





หลังจากนั้นให้เลือกข้อที่ 1 Name Server หรือ NS
ให้เราพิมพ์ Name Server 1: ns1.fgzhost.com และ Name Server2 : ns2.fgzhost.com แล้วกด Setup
*หมายเหตุ หลังจากการที่เรากด Setup เสร็จแล้ว ระบบจะทำการเชื่อต่อกับโดเมนเนมของท่านภายใน 48 ชั่วโมง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น








<อัตราค่าบริการโดเมนเนม>








วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment 4





(1).ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับเครื่อง Desktop



Answer :               ควรเลือกใช้แบบสายทองแดงแบบ UTP เนื่องจากเป็นสายที่ติดตั้งได้ง่าย มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูงและราคาถูก  มีความยาวของสายในการเชื่อมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร และสาย UTP นั้นมีจำนวนสายบิดเกลียวภายใน 4 คู่ คู่สายในสายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวนคล้ายสายโทรศัพท์ มีหลายเส้นซึ่งแต่ละเส้นก็จะมีสีแตกต่างกัน และตลอดทั้งสายนั้นจะถูกหุ้มด้วยพลาสติก  ในปัจจุบันเป็นสายสัญญาณที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในระบบเครือข่ายมากที่สุด 
ข้อเสียของสายสัญญาณประเภทนี้คือ  ป้องกันสัญญาณการรบกวนได้ไม่ดี ถูกรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย และมีระยะทางจำกัด


 (2.)  ต้องการให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างวงแลนมีความเร็วสูง




Answer :          ควรเลือกใช้แบบสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable)  เพราะมีประสิทธิภาพในด้านความเร็วดีกว่าทองแดงและเป็นสายสัญญาณที่มีความเร็วสูงที่สุดในการเชื่อมต่อ ไม่มีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าและ  ยังมีระยะทางการส่งข้อมูลได้ไกลในปริมาณที่สูง  
ข้อเสียคือ มีราคาแพงกว่าสายส่งสัญญาณแบบทองแดง ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้งและมีค่าใช่จ่ายในการติดตั้งสูง


(3).ระยะทางที่สายสัญญาณเดินทางผ่านต้องผ่านเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า


  
Answer :          ควรเลือกสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง(Optical Fiber Cable) เนื่องจากเป็นการส่งสัญญานด้วยแสงโดยใช้ใยแก้วชั้นนอกเป็นกระจกสะท้อนจึงทำให้สายชนิดนี้สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และสามารถส่งข้อมูลได้ในระยะไกล

(4).ต้องการระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบ และ ซ่อมบำรุงกรณีเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ



Answer :         ควรเลือกใช้แบบสายทองแดง เพราะ การติดตั้งและบำรุงรักษาได้ง่าย สามารถควบคุมจุดการเชื่อมต่อและการแพร่กระจายของข้อมูลได้ดี ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ อุปกรณ์สามารถหาได้ง่ายทั่วไป ราคาติดตั้งมีราคาถูกกว่าแบบสายใยแก้วอีกด้วย


(5).รองรับการเพิ่มจุดการเชื่อมต่อสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook 

      เพิ่มเติมอย่างน้อย 4 เครื่อง





Answer :        ควรเลือกใช้แบบสายทองแดง สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)  เนื่องจากสามารถควบคุมคุมการเชื่อมต่อ การแพร่กระจายของข้อมูล และที่สำคัญสามารถป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดี ได้รับความนิยมในการใช้งาน



วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment3




การใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัยได้ดังนี้




    1. การตั้งกระทู้ หรือตอบกระทู้ ควรใช้คำที่สุภาพ และไม่สร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้อื่นเช่น ที่ www.pantip.com เป็นต้น 
    2. ไม่ควรให้ Account อินเทอร์เน็ตกับบุคลอื่นไปใช้งานและควรเปลี่ยนpassword อย่างน้อย 1 เดือน การตั้ง password ใหม่ ควรตั้งไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัวโดยใช้ ตัวเลขผสมตัวอักษร เช่น 255wcit1 ถ้าในกรณีที่รู้ว่า Account ตนเองมีปัญหา ในการใช้งาน ให้ติดต่อศูนย์คอมพิวเตอร์ทันที
    3. ระวังการจ่ายเงินสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพราะอาจจะมีผู้อื่น คอยดักจับเลขที่บัตรเครดิตเรา ในการใช้งานได้ ดังนั้นควรตรวจสอบ ระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้นๆ ว่ามีระบบความปลอดถัยหรือไม่ ก่อนทำการสั่งซื้อ
    4. ควรทำการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต เช่น Windows Internet Explorer และ Outlook Express เป็นต้น จากเว็บไซต์ http://www.microsoft.com
    5. ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 โปรแกรม 
    6. ไม่ควร Download โปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
   
7 . ไม่ควรรับโปรแกรม หรือเปิดไฟล์ต่าง ๆ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักผ่านการใช้งานโปรแกรม MSN, IRC, Pirch และ e-Mail เป็นต้น และปัจจุบันเพิ่มเติมอีกนิดนึงว่าไม่ควรรับไฟล์ใด ๆ แม้จากคนที่เรารู้จักหากไม่ได้รับการยืนยันจากผู้ส่งว่าได้ส่งไฟล์มา เพราะปัจจุบันมีไวรัสหรือมัลแวร์ที่สามารถปลอมตัว หรือใช้โปรแกรมของผู้ส่งไปยังผู้รับได้ เมื่อรับมาก็คือการรับไวรัสเข้ามายังเครื่องนั่นเอง 
    8. ไม่ควรนำ E-mail ของตนเองไปลงทะเบียนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะจะทำให้ได้รับจดหมายขยะ จากเว็บไซต์โฆษณาสินค้า หรือเว็บไซต์ที่มีไวรัส
    9. ถ้าต้องการความปลอดภัยสูงขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถติดตั้งโปรแกรม Personal Firewall บนเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอกเข้าสู่เครื่องผู้ใช้








เปรียบเทียบ "Social media กับ Traditional media"





เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลข่าวสารในรูปแบบใหม่ที่มีการสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถสื่อสารได้ ทาง  (Two-way Communication)
ข้อดี    >>สามารถกระจายผู้รับสื่อได้อย่างรวดเร็วจึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย >>มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องรับสาร เช่น คอมพิวเตอร์ โดยต้องมีความรู้ในการใช้ด้วย เข้าถึงเป้าหมายได้เฉพาะกลุ่ม
ตัวอย่าง :          E-mail Facebook/Fanpage Website Banner Youtube







เป็นการสื่อสารส่งข้อมูลในรูปแบบเดิมที่ไม่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)


ข้อดี>> สามารถกระจายข้อมูลในกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและสะดวกต่อการเข้าถึงในพื้นที่ทีมีข้อจำกัดในการรับสื่อรูปแบบใหม่
ข้อเสีย>> มีต้นทุนสูง ล้าสมัย ล่าช้าและผู้รับสื่อไม่สามารถโต้ตอบกลับได้




ตัวอย่าง :       โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา











ช่วยในการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ บริหาร และความเชี่ยวชาญของคุณไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในว
งจรธุรกิจ  Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่าย สามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง

การที่ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็น Buzz Marketing บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตนเป็นต้น

บางบริษัทใช้ Blog เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้น จะดูมีความเป็นกันเอง และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝาก comment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำ ที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้ง Blog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาด โดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย





"Google Apps"



 เป็น Solution การจัดการข้อมูลทุกชนิดสำหรับ บริษัท, องค์กร, ธุรกิจ, กลุ่ม, ชมรม ของท่าน เพื่อให้ “ข้อมูล” ต่างๆ สามารถ “เข้าถึงได้ง่าย” (Accessible) และ “คงทนถาวร” (Durability) มากที่สุด ซึ่งภายใน Google Apps นั้น ประกอบไปด้วยโปรแกรมต่างๆ ภายในดังนี้
  • Google Mail: จัดเก็บ รับ-ส่ง จดหมาย (E-mail) สำหรับองค์กรของท่าน สามารถใช้ Domain ของบริษัทท่านเป็น E-mail ได้ และปลอดภัยจากอีเมลล์ขยะ (Spam Filter)
  • Google Calendarแบ่งปัน นัดหมายส่วนตัวของคนในองค์กร และใช้เป็นปฏิทินกลาง สำหรับแจ้งข้อมูลการเข้าประชุม, กำหนดการส่งของ และอื่นๆ ได้อย่างสร้างสรร
  • Google Docs: แชร์เอกสารทั้ง Word, Excel และ PPT เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถ อ่านข้อมูล หรือแก้ไข ได้พร้อมๆ กัน แบบ Real-time
  • Google Sites: เว็บเพจกลางสำหรับใช้ภายในบริษัท (Intranet) เพื่อส่งข่าว หรือประกาศสำคัญๆ ต่างๆ หรือ ฐานข้อมูลความรู้ (Knowledge Base) เพื่อให้พนักงานเข้าถึงได้

ประโยชน์ของ Google Apps

  • เป็น Cloud-based Solution ทำให้ข้อมูลของท่านอยู่ยงคงกระพัน ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย และไม่ต้องเสียเวลากับการ Update Version ของ โปรแกรมที่ตัว Client ด้วยตนเอง (ไร้ความเสี่ยงต่อการเข้ากันได้ของข้อมูลต่างๆ)
  • ใช้พนักงาน IT ดูแลน้อยถึงน้อยมากที่สุด เพราะสามารถ Services ได้ง่าย ดูแลได้เอง และมีปัญหาการใช้งานน้อยมาก
  • ปลอดภัยกว่า เพราะข้อมูลถูเก็บที่ฝั่ง Google ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา และรอบคอบกว่า การออกแบบระบบด้วยตนเอง
  • ระบบการทำงานแบบ Online Application เพื่อให้ทุกระบบปฏิบัติการ (OS) ไม่ว่าจะเป้น Windows Mac หรือ มือถือ สามารถเข้าใช้งานได้อย่างง่ายดาย
  • เอกสารต่างๆ มีการจัดเก็บแบบแยก Version (Revision) เพื่อง่ายในการดูย้อนหลัง เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ
  • มีระบบพูดคุย (Instant Messaging) และ Video Chat ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในองค์กร
  • ค่าใช้จ่าย FREE! ถึง ถูกสุดๆ
  • มีพื้นที่จัดเก็บมากมาย เหลือเฟือ ให้ท่านใช้งานได้ แทบจะไม่จำกัด



" Cloud Computing "





คือ  แนวคิดการใช้งานทางด้านไอทีที่ใช้วิธีดึงพลังและสมรรถนะจากคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ตัวจากต่างสถานที่ให้มาทำงานสอดประสานกัน
เพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริการทาง ด้านไอที




ประโยชน์ของCloud Computing
:มีอยู่หลายประการ เช่น ช่วยให้การนำไอทีไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจทำได้ง่ายและประหยัดขึ้นกว่าใน อดีต โดยองค์กรสามารถใช้บริการทางด้านไอทีได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีของตน
อีกทั้งผู้ใช้งานก็สามารถเลือกใช้บริการเฉพาะอย่างและเลือกเสียค่าใช้จ่าย ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านหรือสอดคล้องกับงบประมาณของตนได้ ยิ่งไปกว่านั้น คลาวด์ คอมพิวติ้งก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยองค์กรประหยัดพลังงาน หรือเพิ่มความอุ่นใจในด้านความปลอดภัยของระบบไอที เป็นต้น







***เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญแห่งอนาคต และมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น ธุรกิจใดก็ตามที่สามารถฉกฉวยโอกาสและสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อธุรกิจของตนได้ก่อนก็ย่อมจะสร้างความได้เปรียบและโอกาสในการ ต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจขององค์กรได้ก่อนใคร